วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2558



ไปอเมริกา มีอะไรที่น่าหิ้วหรือน่าซื้อบ้าง?



ไปถึงอเมริกา หลายๆคนก็อาจจะนึกถึงแหล่งท่องเที่ยวหรือการได้เดินทางไปพักยังสถานที่ต่างๆกันนะค่ะ อย่างที่ทราบว่าอเมริกาเป็นเมืองที่มีความเจริญอย่างมาก แต่สิ่งที่หลายๆคนมักจะพูดถึงมากที่สุดก็คือการช็อปปิ้งค่ะ เพราะมีหลายๆสถานที่ที่มีสินค้าและของใช้ที่มีชื่อมากมายจำหน่ายอยู่ขึ้นชื่อว่าเป็น Made in USA
หลายๆคนไว้วางใจได้เลยว่าได้ของคุณภาพดีไปใช้แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือข้าวของตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ แต่ปัญหาที่จะตามมาทีหลังนั่นก็คือ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าในช่วงนี้ทางอเมริกาเขากำลังนิยมสินค้าอะไรกันอยู่ และมีความนิยมในแบบเดียวกันกับทางประเทศไทยหรือไม่ วันนี้เราจึงได้คัดเอาสินค้าหรือของใช้ที่น่าสนใจ น่าซื้อจากทางอเมริกามาเสนอให้ทุกท่านได้ลองดูกัน



เสื้อผ้า (Clothes) :

ไม่น่าเชื่อเสื้อผ้าที่กำลังจำหน่ายอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา เขาใช้โรงงานและฐานการผลิตจากประเทศทางฝั่งเอเชีย
อย่าง ประเทศไทย , กัมพูชา , เวียดนาม . อินโดนีเซีย , ฟิลิปปินส์ หรือจะเป็นประเทศทางแถบตะวันออกกลางอย่างเช่น จอร์แดน , อินเดีย รวมถึงในแถบแอฟริกาอย่างอิยิปต์ อีกด้วย  ทางฝั่งเม็กซิโกก็มีการนำเข้ามาเหมือนกัน ดังนั้นแล้วเราจึงอาจจะรู้สึกว่า ถ้าจะซื้อเสื้อผ้าในอเมริกานี่ก็ไม่ได้ต่างไปจากการซื้อเสื้อผ้าในประเทศไทยหรือซื้อตามเขตชายแดนไทย-กัมพูชาตามตลาดโรงเกลือเลย ข้อด้อยของการซื้อเสื้อผ้าในประเทศสหรัฐอเมริกาก็คือ นอกจากเราจะได้ราคาเสื้อที่แพงแล้ว ยังหาไซส์สำหรับคนเอเชียอย่างเราได้ยากอีกด้วย ต่อให้เจอก็คงจะขายหมดอย่างเร็ว หรือจะเป็นแบรนด์ของอเมริกาเองก็มีเช่นกัน
เสื้อผ้าในอเมริกา




กระเป๋าถือ (Handbags) :

กระเป๋าถือ (Handbag) ในอเมริกา
ที่อเมริกามีกระเป๋าถือหลายแบรนด์ด้วยกันค่ะ บางแบรนด์นั้นก็เป็นการผลิตขึ้นเองของอเมริกาจนเป็นแบรนด์ Made in USA แต่ก็มีบางแบรนด์ที่มีฐานการผลิตอยู่ในประเทศทางแถบยุโรปหรือที่ประเทศญี่ปุ่น เราได้ทำการเปรียบเทียบราคาแต่ละรุ่นแล้วนั้นจะพบว่ากระเป๋าถือที่จำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา มีราคาถูกว่าประเทศทางฝั่งยุโรปหรือทางเอเชียเสียอีกค่ะ อย่างเช่นกระเป๋าถือของ Louis Vuitton  ก็มีขายอยู่ที่นี่เช่นกันค่ะ และนี่คือบรรดาแบรนด์ของกระเป๋าถือยี่ห้อต่างๆที่มีขายที่อเมริกา


อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ (Supplement) :


ขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารเสริมก้ล้วนแล้วแต่ว่าเราสามารถเจอได้ทั้งของจริงและของปลอมนะค่ะ โอกาสที่เราจะเจอของปลอมก็มีมากพอตัว หากเราลองกินเข้าไป แทนที่จะได้ผลดีกับร่างกาย กลับกลายเป็นทำให้ร่างกายเราโทรมลงยิ่งกว่าเดิมค่ะ มีหลากหลายแบรนด์มากๆ ดังนั้นแล้วหากอยากได้แบรนด์อาหารเสริมของจริงและเป็นของมีคุณภาพก็ขอให้ลองตรวจสอบดีๆกันก่อนนะค่ะ - See


อาหารเสริมเพื่อสุขภาพในอเมริกา



ของเล่นเด็ก ( Toys) :

ของเล่นจากฝั่งอเมริกา  ก็ยังพอมีพวกหุ่นยนต์ของเล่นหรือโมเดลที่มีราคาถูกอยู่ค่ะ Made in USA ยังพอหาได้อยู่บ้าง แต่ว่าในระยะหลังมานี้ เรามักจะเจอกับของเล่นที่มีคำว่า Made in China ซึ่งบางทีมันจะเป็นพวกของเล่นที่มีคุณภาพไม่ดี เนื้อพลาสติกกรอบง่าย หักง่าย ดังนั้นแล้ว ก็อยากให้ลองดูให้ดีๆนะค่ะถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นของอิมพอร์ตจากประเทศจีน




ของเล่นเด็กในอเมริกา




เครื่องสำอาง (Cosmetics) :

เครื่องสำอางในอเมริกา


เครื่องสำอางที่มีจำหน่ายที่อเมริกา มีคุณภาพสูง ใช้งานได้ดี มีขนาดเล็กและยังได้รับการยอมรับจากบรรดาช่างแต่งหน้าที่มีชื่อเสียงหลายต่อหลายท่าน หรือจะเป็นเหล่าดารานักแสดง , นักร้องหรือนางแบบชื่อดัง ต่างก็พากันเชียร์ให้นักท่องเที่ยวหรือประชาชนในประเทศอุดหนุนผลิตภัณฑ์ของทางประเทศตัวเองกันด้วยซ้ำ เราต้องยอมรับจริงๆค่ะ ว่าราคาของเครื่องสำอางบ้านเขาถูกมาก ใครที่สนใจก็สามารถลองเช็คราคารวมถึงแบรนด์ของเครื่องสำอางได้ตามเว็บไซต์ก่อนได้เลยค่ะ และนี่คือบรรดาผลิตภัณฑ์ของเครื่องสำอางที่มีจำหน่ายในอเมริกา





นาฬิกา (Watches) :

สิ่งที่หลายๆคนมักจะเล็งอยู่เสมอเวลาไปเที่ยวอเมริกา นั่นก็คือการได้ซื้อของใช้ อย่างเช่นนาฬิกานี่ก็เป็นของใช้ที่ขึ้นชื่ออีกเช่นกันค่ะ เราสามารถเล็งหานาฬิการุ่นต่างๆได้จากที่นี่ ซึ่งมีราคาถูกมาก แถมยังมีดีไซน์ที่ไม่ซ้ำแบบกับใครอีกด้วย คุณภาพดี ทนทาน เราสามารถหาซื้อได้ทั้งนาฬิกาแฟชั่นที่วัยรุ่นนิยมใส่กันอย่างเช่น G-Shock หรือ CASIO
นาฬิกาในอเมริกา




แว่นตากันแดด (Sunglasses) :

แว่นตากันแดดในอเมริกาหากลองสังเกตหนุ่มๆในประเทศนี้ เขาก็ชื่นชอบที่จะใส่แว่นตาประเภทแว่นตาแฟชั่นหรือแว่นกันแดดเท่ๆ ที่ใส่แล้วดูเคร่งขรึม หรือใส่แล้วดูมีภูมิฐานมากขึ้นนะค่ะ บางคนก็ชอบที่จะใส่เพื่อเล่นวินด์เซิร์ฟ , ตีเทนนิส หรือแม้กระทั่งใส่ไปออกรอบเวลาตีกอล์ฟเองก็เช่นกัน เราสามารถที่จะใส่แว่นตากันแดดในลักษณะของ Sport Sunglasses เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเราได้ค่ะ และนี่ก็คือแบรนด์ของแว่นตาที่มีชื่อเสียงและสามารถหาซื้อได้ที่อเมริกา







































มาเตรียมรับมือกับพายุหิมะกัน

มาเตรียมรับมือกับพายุหิมะกัน อากาศหนาวมาเยือนอีกระลอกแล้วนะคะโดยเฉพาะคนที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา สำหรับคนที่กำลังคิดว่าจะมาอยู่แถบ ๆ นั้นก็เตรียมรับมือกับพายุหิมะ หรือ พายุฤดูหนาวได้เลยค่ะ เท่าที่อยู่มาเกือบสิบห้าปียังไม่มีปีไหนเขาไม่พูดถึงหรือไม่ออกข่าวเลย และหากใครอยู่ในรัฐที่อากาศหนาวและใช้รถส่วนตัวเป็นหลักในการไปไหนมาไหนบวกกับที่จะต้องขับรถในระยะทางพอสมควรในแต่ละวันก็ต้องเรียนรู้สิ่งละอันพันละน้อยไว้เช่นกันนะคะ
วันนี้ก็อยากจะเอามาฝากกันในเรื่องของการเตรียมพร้อมและรับมือหากรถของเราเสียหลักลงข้างทางหรือติดหิมะออกมาไม่ได้ต้องรอคนช่วยจะทำอย่างไรดี

                พออ่านมาถึงตรงนี้หลายคนก็บอกว่า โอ๊ย! ฉันอยู่ในเมืองย่ะ ไม่ได้อยู่บ้านนอก ความเจริญและความช่วยเหลือมาถึงได้รวดเร็ว ตรงนี้อย่าชะล่าใจนะคะ เพราะเคยมีข่าวว่ามีคนที่อาศัยอยู่ในตัวเมืองนิวยอร์กเรียกรถพยาบาลในช่วงพายุหิมะ รถพยาบาลต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงก็ยังเข้าไม่ถึงก็มีนะคะ เพราะฉะนั้นหากเราใช้รถขับรถขับลาก็ต้องเตรียมพร้อมไว้ว่าเราจะต้องสามารถประวิงเวลาให้สามารถอยู่ในรถได้นานที่สุดเพื่อรอคนมาช่วยค่ะ
                ปกติเวลาหิมะตกทางเทศบาลเขาก็จะส่งรถบรรทุกออกมาเกรด เคลียร์หิมะบนถนน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าถนนจะมีสภาพเหมือนกับในช่วงอากาศร้อนนะคะ มันอาจจะลื่นหรือมีหิมะตกค้าง หรือ ที่ร้ายที่สุดคือรถเกรดทำงานไม่ทันยังทำให้มีหิมะตกค้างบนถนน ซึ่งตรงนี้แหละค่ะที่จะทำให้รถเสียหลักได้ง่ายและลื่นหลุดออกไปบนไหล่ทางหรือข้างทางและไปติดอยู่บนหิมะที่เขาเกรดทิ้งไว้ ซึ่งแน่นอนเมื่อรถติดในหิมะมันก็เหมือนรถติดหล่มบ้านเราที่ล้อมันฟรีและออกมาไม่ได้ เราก็ต้องโทรเรียกคนมาช่วยซึ่งตามกฎหมายเขาให้ออกจากรถ แต่เท่าที่เห็น (โชคดีไม่เคยเกิดกับตัวเอง เคยหมุน 360 องศาแต่ไม่เสียหลัก ขับต่อได้) หากปลอดภัยพอที่จะอยู่ในรถเพราะมีฮีทเทอร์ในรถ และตรงนี้ล่ะค่ะที่อยากจะเน้นสักหน่อย
                เวลารถติดหล่มในเวลาอากาศหนาว ๆ ถึงแม้ว่าเราจะสามารถติดเครื่องรถและเปิดฮีทเทอร์ได้และรอคนให้มาช่วย แต่เราก็ไม่รู้ว่าเขาจะมาเมื่อไร สิ่งที่เราต้องสงวนไว้ก็คือน้ำมันรถ เพราะหากน้ำมันหมดแล้วคนช่วยยังไม่มาถึง คุณคิดว่าคุณจะสามารถนั่งในรถที่อุณหภูมิภายนอกติดลบได้นานเท่าไร????
 วิธีที่เราจะสงวนน้ำมันรถพร้อมกับให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายในระหว่างที่รอก็คือ ติดเครื่องรถไว้เพื่อใช้เครื่องทำความร้อนให้ความอบอุ่นในรถยนต์ประมาณ 5 นาที จากนั้นดับเครื่องแล้วค่อยติดเครื่องใหม่อีกประมาณ 30 นาทีหลังจากนั้น วิธีนี้เรียนมาจากพ่อลูกคู่หนึ่งที่ไปติดหล่มอยู่ในป่าแล้วไม่มีคนมาช่วย คุณพ่อเขาก็ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ทุก ๆ ครึ่งชั่วโมงเพื่อติดเครื่องยนต์และเปิดเครื่องทำความร้อน รถเป็นรถกระบะสามารถประหยัดน้ำมันและเหลือขับกลับบ้านด้วยค่ะ
                และต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติเสมอหากต้องขับรถในช่วงหรือบริเวณที่มีอากาศหนาวมาก ๆ นะคะ
  • ควรเติมน้ำมันรถให้เต็มหรือเกือบเต็มไว้ตลอดเวลา
  • มีเครื่องดื่มร้อน ๆ ใส่กระติกไปด้วย อย่างน้อยก็มีน้ำดื่มก็ยังดีค่ะ น้องสาวของแฟนต้องขับรถประมาณ 30-40 นาทีไปทำงานทุกวัน เธอก็จะเอากาแฟเผื่อเพิ่มไปมากกว่าปกติในช่วงอากาศหนาวค่ะ พร้อมขนม
  • มีผ้าห่มติดรถไว้เสมอ ส่วนตัวแล้วจะใช้ผ้าห่มที่มีเส้นใยทอหนาแทนผ้านวมเพราะมันประหยัดเนื้อที่กว่า
  • ควรมีสายพ่วงแบ็ตเตอรี่ติดรถเสมอไม่ว่าจะอากาศอย่างไร เพราะส่วนใหญ่จะไม่มีใครมีของสิ่งนี้ติดรถไว้ยามฉุกเฉินค่ะ
สี่อย่างนี้เป็นของที่เตรียมง่าย ๆ ไม่ต้องลำบากมากนัก ถ้าต้องเดินทางไกลก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งนะคะเพราะต้องเตรียมพร้อมกันมากกว่านี้ค่ะ แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดเวลามีพายุฤดูหนาวก็อย่าออกไปไหนดีกว่าค่ะ อ้อ แต่อย่าลืมเตรียมอาหารแห้งสำรองไว้ด้วยนะคะ เผื่อพิซซ่ามาส่งไม่ได้ค่ะ





รถบัสและรถไฟในอเมริกาเป็นอย่างไรนะ





รถบัสและรถไฟในอเมริกาเป็นอย่างไรนะ - แม้ว่าการเดินทางด้วยตนเองในสหรัฐอเมริกาจะเป็นสิ่งที่สะดวก แต่ในบางครั้ง การใช้บริการขนส่งมวลชนก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้ท่านประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เช่น ค่าน้ำมัน ค่าบำรุงดูแลรักษารถ ค่าธรรมเนียมผ่านทาง เป็นต้น
บทความนี้แนะนำบริการขนส่งมวลชนทางบกทางรถบัสและรถไฟในสหรัฐอเมริกา

รถบัส (Bus)
รถบัส เป็นทางเลือกของการเดินทางที่สะดวก เพราะในปัจจุบัน ทุกรัฐ ทุกเมือง มีถนนหนทางเข้าถึง ดังนั้น การเดินทางโดยรถยนต์โดยสารจึงเป็นทางเลือกอันดับแรกๆ ของนักเดินทาง เนื่องจากราคาถูก และหาซื้อตั๋วโดยสารได้ง่าย
การเดินรถยนต์โดยสารระหว่างเมืองในประเทศสหรัฐอเมริกาดำเนินการโดยบริษัท Greyhound Lines, Inc. ให้บริการทั้ง 48 รัฐในแผ่นดินใหญ่สหรัฐ ท่านสามารถจองตั๋วโดยสารออนไลน์ได้ที่ http://www.greyhound.com/ ทั้งนี้ โปรดสังเกตการสะกดคำของ Greyhound ว่าเป็นตัว e ไม่ใช่ตัว a อย่างไรก็ดี Greyhound ไม่ใช่บริษัทเดินรถโดยสารระหว่างเมืองบริษัทเดียวของสหรัฐฯ
ข้อแนะนำในการใช้บริการรถโดยสาร Greyhound
- ท่านไม่จำเป็นต้องจองตั๋วโดยสารล่วงหน้า ดังนั้น ท่านสามารถวางแผนการเดินทางได้ในระยะเวลาที่กระชั้นชิดและซื้อตั๋วได้ในวันโดยสารที่สถานี
- เมื่อจองตั๋วออนไลน์ Greyhound สามารถขายตั๋วเกินจำนวนที่นั่งได้ ดังนั้น ในวันเดินทาง หากรถโดยสารเต็ม แม้ว่าท่านจะมีตั๋วโดยสาร ท่านจะไม่ได้รับอนุญาตให้โดยสารรถ
- หากท่านมีบัตรส่วนลด Student Advantage ท่านสามารถใช้ส่วนลดค่าโดยสาร 15% เมื่อซื้อตั๋วโดยสาร
- เมื่อซื้อตั๋วโดยสารออนไลน์ ท่านสามารถเลือกให้ Greyhound ส่งตั๋วมาที่บ้าน หรือเลือกที่จะรับตั๋วที่สถานีรถโดยสาร (Will Call Tickets) ก็ได้
- เมื่อจองตั๋วออนไลน์แล้ว ท่านจะได้รับ Reference Number ให้ท่านเก็บเลขนี้ไว้เพื่อรับตั๋วโดยสารที่สถานี
- เมื่อซื้อตั๋วแล้ว ท่านสามารถโดยสารรถใดก็ได้ที่ตามต้นทางและปลายทางที่ระบุไว้ในตั๋ว โดยไม่จำเป็นต้องเป็นหมายเลขรถที่ระบุไว้ในวันที่ระบุไว้ในตั๋วโดยสาร ท่านไม่สามารถคืนตั๋วโดยสารได้แม้ว่าท่านจะไม่ได้ใช้ตั๋วโดยสารก็ตาม
ข้อปฏิบัติในการโดยสารรถโดยสาร Greyhound
- มาถึงสถานีอย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนรถโดยสารออกจากสถานีตามเวลาที่ระบุในตั๋วโดยสารหรือในอีเมลที่ได้รับเมื่อจองตั๋วโดยสาร
- หากซื้อตั๋วออนไลน์แล้วแต่ยังไม่มีตั๋วโดยสาร เมื่อมาถึงสถานีแล้วต้องขอรับตั๋วโดยสารจากเจ้าหน้าที่ที่ช่องขายตั๋ว โดยต้องแสดง Photo Identification ต่อเจ้าหน้าที่ หรือใช้บริการเครื่องพิมพ์ตั๋วอัตโนมัติในสถานี ทั้งนี้ท่านต้องใช้บัตรเครดิต/เดบิตที่ใช้ซื้อตั๋วโดยสาร และต้องกรอก Reference Number ที่ได้รับเมื่อจองตั๋วออนไลน์จึงจะรับตั๋วได้
- ตามสถานีใหญ่ๆ การโดยสารรถยนต์โดยสารจะมีการต่อแถวเพื่อออกไปขึ้นรถ ดังนั้น ให้ติดตามว่า ขบวนรถที่ท่านจะโดยสารนั้นจะใช้ประตู (Gate) ใดเพื่อการโดยสาร และไปต่อแถวก่อนเวลารถออก เนื่องจากในบางครั้ง รถโดยสารอาจเต็มได้
ข้อดีของ Greyhound
- ราคาถูก สะดวกในการหาสถานีและขึ้นรถ เพราะมีสถานีรถโดยสารกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ ของประเทศ
- ให้บริการทั่วถึงทุกส่วนของประเทศ
- หากท่านพลาดการโดยสาร ท่านสามารถใช้ตั๋วเดิมเพื่อรอการโดยสารรถเที่ยวต่อไปได้
ข้อเสียของ Greyhound
- ไม่มีการรับรองความปลอดภัยและความตรงต่อเวลา ดังนั้น เมื่อท่านวางแผนใช้บริการ Greyhound โปรดสำรองเวลาในกรณีที่รถโดยสารล่าช้าด้วย เนื่องจาก Greyhound จะไม่รับผิดชอบต่อการล่าช้าของรถโดยสารไม่ว่ากรณีใดๆ
- ไม่รับรองที่นั่งบนรถ แม้ว่าท่านจะมีตั๋วโดยสารที่ระบุหมายเลขรถนั้น ในวันที่โดยสารนั้นก็ตาม ดังนั้น หากท่านไปถึงสถานีก่อนเวลา แต่รถโดยสารเต็มแล้ว ท่านต้องรอรถเที่ยวต่อไป ซึ่งในบางครั้งอาจห่างกันถึง 6 ชั่วโมง

รถไฟ (Train)















รถไฟเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการเดินทาง เนื่องจากสะดวกและปลอดภัย การบริการรถไฟโดยสารระหว่างเมือง (intercity) ในประเทศสหรัฐอเมริกาดำเนินการโดยบริษัท National Railroad Passenger Corporation ที่รู้จักกันในชื่อ Amtrak ให้บริการ 46 รัฐในแผ่นดินใหญ่สหรัฐ (ยกเว้น South Dakota และ Wyoming)
รถไฟสายต่างๆ มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามภูมิภาคที่รถไฟวิ่งผ่าน เช่น Capitol Limited วิ่งระหว่างนครชิคาโกกับกรุงวอชิงตัน ดีซี Sunset Limited วิ่งระหว่างเมือง Orlando, FL กับนครลอสแอนเจลิส Keystone วิ่งระหว่างนครนิวยอร์กกับเมือง Harrisburg, PA Carolinian วิ่งระหว่างนครนิวยอร์กกับเมือง Charlotte, NC เป็นต้น
การกำหนดเลขขบวนรถของ Amtrak นั้นจะกำหนดเลขคี่เป็นขบวนรถที่วิ่งไปทางใต้หรือตะวันตก ส่วนเลขคู่คือขบวนรถที่วิ่งไปทางเหนือหรือตะวันออก เช่น Regional 196 วิ่งจากกรุง Washington, DC ไปยังนคร New York, NY (ไปทางเหนือ) ส่วน Capitol Limited 29 วิ่งจากกรุง Washington, DC ไปยังนคร Chicago, IL (ไปทางตะวันตก) ทั้งนี้ยกเว้นสาย Pacific Surfliner (เส้นทาง Santa Barbara-Los Angeles-San Diego) เนื่องจากการกำหนดเลขได้รับผลจากสายใกล้เคียง
ชนิดของที่นั่งบนรถไฟแตกต่างกันไปคล้ายกับรถไฟในประเทศไทย กล่าวคือ มีรถนอนประเภทต่างๆ รถนั่งประเภทต่างๆ รถขายอาหาร รถชมวิว (Lounge Car) รถบรรทุกรถยนต์ (AutoTrain) เป็นต้น ท่านสามารถจองตั๋วรถไฟออนไลน์ได้ที่ http://www.amtrak.com/ ทั้งนี้รถที่วิ่งระยะทางไกล (มากกว่า 12 ชม.) อาจมีการล่าช้า ดังนั้นเมื่อท่านเดินทางโดยรถไฟในระยะไกลควรวางแผนสำรองเวลาในกรณีที่ขบวนรถล่าช้า ซึ่งในบางครั้งอาจถึง 12 ชั่วโมง
ชุมทางรถไฟ Amtrak ที่สำคัญในสหรัฐอเมริกา ได้แก่สถานี Pennsylvania Station, New York, NY, Union Station, Washington, DC, Union Station, Chicago, IL, และ Union Station, Los Angeles, CA สถานีอื่นๆ ที่มีการใช้บริการเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ เช่น Philadelphia 30th Street Station, PA, Newark, NJ, Trenton, NJ, Boston South Station, MA, Princeton Junction, NJ, Baltimore Penn Station, MD เป็นต้น
รถไฟสายที่สำคัญที่สุดในสหรัฐอเมริกาคือสาย Northeast Corridor ซึ่งขบวนรถส่วนใหญ่วิ่งผ่าน New York, NY, Newark, NJ, Trenton, NJ, Philadelphia, PA, Wilmington, DE, Baltimore, MD, BWI Airport, MD, และ Washington, DC รถไฟสายนี้มี 2 บริการ ได้แก่ Regional และ Acela Express โดยประเภทแรกเป็นขบวนรถพื้นฐาน ให้บริการกับประชาชนทั่วไป มีราคาถูกกว่า Acela Express ซึ่งให้บริการเฉพาะ Business Class และ First Class เท่านั้น จึงมีราคาแพงกว่ามาก
ข้อแนะนำในการใช้บริการรถไฟ Amtrak
- ตั๋วโดยสารส่วนใหญ่ต้องมีการจองล่วงหน้า ดังนั้น ในการวางแผนการเดินทาง โดยเฉพาะช่วงเทศกาล ควรวางแผนล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน รถไฟบางประเภทไม่จำเป็นต้องมีการจองตั๋วล่วงหน้า โดยท่านจะพบคำว่า Unreserved Coach Seat เมื่อจองตั๋วออนไลน์ Amtrak สามารถขายตั๋วเกินจำนวนที่นั่งในขบวนรถประเภทนี้ ดังนั้น ท่านอาจจะไม่มีที่นั่งเมื่อโดยสารขบวนรถ ทั้งนี้ ขบวนรถที่เป็น Unreserved จะเป็นขบวนรถระยะสั้น
- หากท่านมีบัตรส่วนลดต่างๆ เช่น Student Advantage หรือ International Student Identity Card (ISIC) ท่านสามารถใช้ส่วนลดค่าโดยสาร 15% เมื่อจองตั๋วล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันก่อนวันเดินทาง
- เมื่อซื้อตั๋วโดยสารออนไลน์ ท่านสามารถเลือกให้ Amtrak ส่งตั๋วมาที่บ้าน หรือเลือกที่จะรับตั๋วที่สถานี หากท่านต้องการรับตั๋วที่สถานี ให้ตรวจสอบว่าสถานีที่ท่านจะโดยสารนั้นมีช่องจำหน่ายตั๋วหรือเครื่องออกตั๋วหรือไม่ หากไม่มีให้เลือกใช้บริการส่งตั๋วถึงบ้าน
- เมื่อจองตั๋วออนไลน์แล้ว ท่านจะได้รับ Confirmation Number 6 หลัก ทางอีเมล ให้ท่านเก็บเลขนี้ไว้เพื่อรับตั๋วโดยสารที่สถานี
- เมื่อซื้อตั๋วแล้ว ท่านต้องโดยสารขบวนรถที่ระบุไว้ในวันที่ระบุไว้ หรือโดยสารขบวนรถที่เป็น Unreserved เหมือนกัน หากท่านไม่สามารถโดยสารขบวนรถดังกล่าวได้ ท่านสามารถคืนตั๋วโดยสารออนไลน์หรือที่สถานี โดยทั่วไปจะไม่มีการหักค่าธรรมเนียมในการคืนตั๋วหากท่านยังไม่ได้รับตั๋วโดยสาร
ข้อปฏิบัติในการโดยสารรถไฟ Amtrak
- มาถึงสถานีอย่างน้อย 30 นาทีก่อนขบวนรถออกจากสถานีตามเวลาที่ระบุในตั๋วโดยสารหรือในอีเมลที่ได้รับเมื่อจองตั๋วโดยสาร
-  หากซื้อตั๋วออนไลน์แล้วแต่ยังไม่มีตั๋วโดยสาร เมื่อมาถึงสถานีแล้วต้องขอรับตั๋วโดยสารจากเจ้าหน้าที่ที่ช่องขายตั๋ว หรือใช้บริการ QuikTrak Machine ซึ่งเป็นเครื่องพิมพ์ตั๋วอัตโนมัติในสถานี ทั้งนี้ท่านต้องใช้บัตรเครดิต/เดบิตที่ใช้ซื้อตั๋วโดยสาร และต้องกรอก Confirmation Number ที่ได้รับเมื่อจองตั๋วออนไลน์จึงจะรับตั๋วได้ ท่านจะไม่ได้รับอนุญาตให้โดยสารรถไฟหากท่านไม่มีตั๋วโดยสารที่ถูกต้อง
- ในสถานีใหญ่ๆ การโดยสารรถไฟจะมีการต่อแถวเพื่อลงไปยังชานชาลา ดังนั้น ให้ติดตามว่า ขบวนรถที่ท่านจะโดยสารนั้นจะใช้บันได (Stairway) ใดเพื่อรอการโดยสาร ท่านต้องแสดงตั๋วโดยสารแก่เจ้าหน้าที่ก่อนลงไปชานชาลา หากไม่มีตั๋วโดยสาร ท่านจะไม่ได้รับอนุญาตให้ลงไปชานชาลา
- ท่านต้องมี Valid Photo Identification ติดตัวไว้เสมอในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของ Amtrak ขอตรวจสอบ
- บนขบวนรถ อย่าทิ้งสัมภาระไว้โดยลำพัง ท่านอาจทิ้งสัมภาระได้ในกรณีที่ใช้สุขา แต่ทั้งนี้ให้นำของมีค่าติดตัวไปด้วย สำหรับคอมพิวเตอร์พกพา (Laptop) สามารถทิ้งไว้ที่ที่นั่งของท่านได้ มักจะไม่หาย
- หากสิ่งของหายให้แจ้งเจ้าหน้าที่ประจำรถ พึงระลึกไว้ว่า สิ่งของของท่านจะอยู่บนขบวนรถเสมอหากขบวนรถไม่ได้หยุดรับส่งผู้โดยสารที่สถานี
ข้อดีของ Amtrak
- สะดวก ปลอดภัย ตรงต่อเวลาหากเป็นขบวนรถระยะสั้น เช่น Northeast Corridor
- ที่นั่งสบาย เหมาะสำหรับการพูดคุย พักผ่อน หรือทำงาน
- มีแหล่งจ่ายไฟ 110V ไว้สำหรับคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์อื่นๆ
- หากเป็นขบวนรถที่ Reserved ท่านจะมีที่นั่งเสมอเมื่อโดยสารขบวนรถ
- ในขบวนรถบางขบวนจะมี Quiet Car ซึ่งไม่อนุญาตให้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ และการสนทนาจะอยู่ในระดับต่ำ สำหรับท่านที่ต้องการใช้สมาธิเพื่อทำงาน หรือต้องการความเงียบเพื่อพักผ่อน สามารถโดยสาร Quiet Car ได้
ข้อเสียของ Amtrak
- ราคาแพงกว่า Greyhound ในขบวนรถระยะไกลบางขบวน หากท่านใช้บริการรถนอน อาจมีราคาแพงกว่าเครื่องบิน
- ให้บริการไม่ครบทุกส่วนของประเทศ
- หากท่านวางแผนการเดินทางผิด ทำให้พลาดการโดยสาร ท่านต้องซื้อตั๋วโดยสารใหม่ ทั้งนี้ หากท่านต้องต่อขบวนรถอื่นๆ ของ Amtrak แต่ขบวนรถแรกที่ท่านโดยสารล่าช้า ทำให้พลาดการโดยสาร ท่านสามารถติดต่อช่องจำหน่ายตั๋วได้เพื่อขอคำแนะนำหรือขอค่าโดยสารคืน
ผู้เขียนเชื่อว่า เพื่อนนักเรียนทุนทุกคนที่ศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาจะมีโอกาสได้ใช้บริการเหล่านี้อย่างน้อยหนึ่งครั้งตลอดระยะเวลาที่ศึกษาที่นี่ หากเพื่อนๆ ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ไม่มีแผนการเดินทางที่รีบเร่ง ก็ควรใช้บริการ Greyhound แต่ถ้าเพื่อนๆ ต้องการใช้บริการที่ตรงต่อเวลา สะดวก สบาย รวดเร็ว และไว้วางใจได้ ก็ควรใช้บริการ Amtrak ครับ
Credit: ชินวัตร อิศราดิสัยกุล
นักเรียนทุนรัฐบาลไทยรุ่นปี 2547 (TS47)
20 มกราคม 2549







นิสัยมันส์ๆของ เด็กวัยรุ่นในอเมริกา

เด็กวัยรุ่นในอเมริกา

















เด็กวัยรุ่นในอเมริกาจะมีความเป็นตัว
ของตัวเองสูง กล้าคิดกล้าทำ เพราะอยู่ในธรรมเนียมและวัฒนธรรมที่มีการอบรมสั่งสอนต่างจากเมืองไทย ซึ่งก็มีข้อดีบ้างข้อเสียบ้าง ให้เป็นที่ปวดหัวของบรรดาผู้ปกครองอยู่พักหนึ่ง จนกว่าจะเริ่มเป็นผู้ใหญ่มีความรับชอบมากขึ้นเรื่อยๆ นิสัยมันส์ๆของ เด็กวัยรุ่นในอเมริกา ถึงได้ลดลงค่ะ
วันนี้ GoGoAmerica จะขอพูดถึง เด็กวัยรุ่นในอเมริกาซะหน่อยค่ะ โดยคุณ T. Ben จาก หนังสือ “พูดอังกฤษสไตล์วัยรุ่นอเมริกัน” ได้กล่าวถึงนิสัยต่าง ๆ ของเด็กวัยรุ่นในอเมริกาในหลายแง่มุม  เรามาดูกันว่ามีอะไรกันบ้าง


1. GEEK (กี๊ค) 
geek
GEEK (กี๊ค)  คำๆนี้ใช้เรียกพวกบ้าเล่นเกมส์ บ้าเล่นคอมพิวเตอร์ อ่านการ์ตูน ไม่เล่นกีฬา  ซึ่งคนในอเมริกา หากใครเล่นคอมพิวเตอร์มากๆจะโดนเพื่อนล้อ  ดังนั้น ถ้าใครไม่อยากโดนเพื่อนล้อ ก็คงต้องแอบเล่นแล้วล่ะ

2.NERD (เนิร์ด)

NERD

ซึ่งนอกจากนี้ก็ยังมีคำว่า NERD (เนิร์ด) ที่คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าเป็น geek แต่จริง ๆ แล้วต่างกันจ๊ะ เพราะ nerd เนี๊ยะจะฉลาด และมักจะใส่แว่นตา เพราะเนื่องจากว่าอ่านหนังสือมากเกินไป

 3. DORK (ดอร์ค)

DORK

และยังมีอีกคำนั้นก็คือ DORK (ดอร์ค) ซึ่งหมายถึงคนที่สนใจในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่สนกันน่ะ มันทำให้ดูไม่เท่

4. JOCKS (จ๊อคส์)

JOCKS
ตามโรงเรียนก็จะมีการจัดกลุ่มเรียบร้อยว่าใครอยู่กลุ่มไหน แน่นอนว่าคนจากกลุ่มสามารถเป็นเพื่อนกับอีกกลุ่มได้ แต่กลุ่มที่เป็นศัตรูกับ geeks และ nerds นั่นก็คือ พวก JOCKS (จ๊อคส์) ซึ่งพวกนี้หมายถึงนักกีฬาของโรงเรียน ซึ่งมีนิสัยกวน ๆ ไม่แคร์ใคร และอาจไม่ฉลาดเท่าไร มักชอบแกล้ง geeks กับ nerds

5. PREPS (เพรพส์)

  PREPS
PREPS (เพรพส์) คือกลุ่มคนที่ไปโรงเรียน preparatory school ซึ่งเป็นโรงเรียนเตรียมเข้ามหาลัย เด็กกลุ่มนี้จะรวยและเล่นกีฬาให้กับโรงเรียน  ซึ่งข้อแตกต่างของ preps กับ jocks ก็คือ preps มักจะประสบความสำเร็จในชีวิตเพราะตั้งใจเรียน นอกจากนี้ preps เป็นพวกแต่งตัวเรียบร้อยนิสัยใส่เสื้อผ้าแพงๆ โดยเฉพาะยี่ห้อ American Eagle, Ralph Lauren และ Lacoste ส่วนบางคนที่บอกว่า preps ชอบแกล้ง geeks กับ nerds คิดว่าไม่จริงนะ เพราะ preps มักจะหยิ่ง ไม่ค่อยสนใจใคร

 6. GOTH (กอธ)

GOTH
และบางกลุ่มก็ได้รับอิทธิพลมาจากแนวดนตรี เช่น GOTH (กอธ) ลักษณะเด่นของกลุ่มนี้จะอยู่ที่การแต่งตัว เพราะจะแต่งเป็นโทนสีดำล้วน ผู้หญิงจะใส่ชุดเว่อร์เหมือนเจ้าหญิงแต่เป็นสีดำ ทังชายและหญิงมักจะแต่งหน้าขาว ย้อมผมดำ goths ยังมีความโดนเด่นอีกอย่างคือเป็นคนใจกว้าง จึงเป็นเพื่อนกับกลุ่มอื่นได้ง่าย และเป็นมิตรกับทุกคน

7. EMOS (อี๊-โมซ์)

 EMOS
อีกกลุ่มหนึ่งที่คล้าย goths ก็คือ EMOS (อี๊-โมซ์) ซึ่งคนกลุ่มนี้คล้าย goths มาก คือแต่งชุดสีดำ ทำผมดำๆ แต่จะฟังเพลงแนว emo ข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัด ก็คือ emos จะทำตัวเศร้า ๆ เรียกได้ว่าอยู่กับความเศร้าตลอดเวลา มองโลกในแง่ร้าย จนอาจถึงขั้นทำร้ายตัวเอง

8. PUNKS

 PUNKS

นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม PUNKS ที่ฟังเพลงแนว punk ชอบใส่เสื้อผ้ายีนส์ และสวมแจ็กเก็ต และชอบทำผมตั้งๆเหมือนอินเดียนแดง

 9. GANGSTAS (แก๊ง-สตัช)

GANGSTAS
ส่วน GANGSTAS (แก๊ง-สตัช) คือกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด นิยมความรุนแรงโดยไม่จำเป็นต้องเป็นคนผิวสี

10. PIMP

PIMP
นอกจากนี้ยังมี PIMP หมายถึง แมงดา คือผู้ชายที่มีผู้หญิงเยอะจะเอาไปทำอะไรนั้นก็ให้คือเอาเอง ชุดประจำตัวของ pimp คือ ใส่เสื้อคลุมทำจากขนสัตว์สีสด ๆ เช่น ชมพู แดง เขียว และใส่หมวก cowboy มีขนนกติดอยู่

11. PLAYA (เพล-ย่า)


คนที่เป็น PLAYA (เพล-ย่า) หมายถึงคนที่มีแฟนมาก หรือพูดง่ายๆ หรือผู้ที่เก่งเรื่องรักทันเกมรัก ต่างกับ pimp ตรงที่ playa ไม่เอาเงินจากผู้หญิง